ระบบสปริงเกอร์ vs ระบบน้ำหยด เลือกแบบไหนดี ?

ระบบสปริงเกอร์ vs ระบบน้ำหยด เลือกแบบไหนดี ?

13 มี.ค. 2568   ผู้เข้าชม 7

เกษตรกรและเจ้าของสวน ต้องรู้ !! เพราะการเลือกระบบที่เหมาะสมย่อมส่งผลต่อประสิทธิภาพของสวนโดยตรง และน้ำเป็นทรัพยากรสำคัญ ดังนั้นการจัดการน้ำด้วยระบบที่มีประสิทธิภาพสูงสุดถือเป็นเรื่องที่ควรให้ความสนใจมากที่สุด

ระบบสปริงเกอร์ vs ระบบน้ำหยด ทำความรู้จักก่อนตัดสินใจ

  • ระบบสปริงเกอร์เป็นระบบที่ให้น้ำแบบฝอยละอองผ่านหัวสปริงเกอร์ เหมาะกับพื้นที่กว้าง

  • ระบบน้ำหยดคือน้ำถูกปล่อยออกมาทีละหยดโดยตรงที่รากของพืช ทำให้ประหยัดน้ำและเหมาะกับพื้นที่จำกัดหรือพืชที่ต้องการดูแลเป็นพิเศษ

ระบบสปริงเกอร์ vs ระบบน้ำหยด วิเคราะห์จากชนิดพืชและขนาดพื้นที่

          การเลือกระหว่างระบบสปริงเกอร์กับระบบน้ำหยดควรพิจารณาจาก

ชนิดพืช

        ระบบสปริงเกอร์ : ผักใบเขียว สนามหญ้า หรือพืชไร่บางชนิด​

        ระบบน้ำหยด : พืชสวน ผลไม้ หรือพืชในกระถาง​

ขนาดพื้นที่ หากพื้นที่กว้าง มีน้ำเพียงพอ การเลือกใช้ระบบสปริงเกอร์อาจเหมาะสมกว่า แต่หากต้องการประหยัดน้ำสูงสุดและมีพื้นที่เล็ก ระบบน้ำหยดคือคำ ตอบที่ลงตัวที่สุด

  • แรงดันน้ำที่เหมาะสมสำหรับ ระบบสปริงเกอร์ vs ระบบน้ำหยด

  • แรงดันที่เหมาะสมของระบบสปริงเกอร์ประมาณ 2-4 บาร์ (20-40 เมตรน้ำ) โดยทั่วไปนิยมใช้อยู่ที่ประมาณ 3 บาร์ เพื่อให้หัวสปริงเกอร์สามารถกระจายน้ำได้ไกลและสม่ำเสมอ หากแรงดันต่ำเกินไป สปริงเกอร์จะพ่นน้ำไม่ทั่วถึงหรือระยะพ่นสั้น แต่หากแรงดันสูงเกินไป น้ำจะกลายเป็นละอองฟุ้งกระจาย หรืออาจทำให้อุปกรณ์สึกหรอเร็วขึ้น

  • แรงดันที่เหมาะสมระบบน้ำหยด อยู่ในช่วงประมาณ 0.8-1.5 บาร์ (8-15 เมตรน้ำ) นิยมใช้ประมาณ 1 บาร์ ระบบน้ำหยดต้องการแรงดันที่ค่อนข้างต่ำ เนื่องจากปล่อยน้ำออกมาอย่างช้าๆ เป็นหยดหรือเป็นสายเล็กๆ หากแรงดันสูงเกินไปอาจทำให้ท่อและข้อต่อเกิดความเสียหาย หรือน้ำหยดออกมามากเกินความจำเป็น

ระบบสปริงเกอร์ vs. ระบบน้ำหยด แบบไหนลดวัชพืชได้ดีกว่ากัน?

ระบบสปริงเกอร์

  • การกระจายน้ำเป็นวงกว้าง : สปริงเกอร์จ่ายน้ำโดยการพ่นกระจายเป็นละออง ครอบคลุมพื้นที่กว้าง ทำให้ดินรอบๆ ที่ไม่ได้ปลูกพืชหลักเปียกชื้น และเอื้อต่อการงอกของเมล็ดวัชพืช

  • การรดน้ำที่ผิวดิน : น้ำจากสปริงเกอร์ตกกระทบผิวดินโดยตรง ส่งผลให้วัชพืชที่อยู่ตื้นๆ หรือที่เมล็ดร่วงหล่นมางอกได้ง่ายขึ้น

เปรียบเทียบกับระบบน้ำหยด

  • ระบบน้ำหยดจะปล่อยน้ำออกตรงบริเวณรากของพืชโดยเฉพาะ พื้นที่โดยรอบแห้งกว่า ลดโอกาสวัชพืชงอก

  • การใช้น้ำหยดยังช่วยควบคุมพื้นที่ชุ่มชื้นได้ดีกว่า ลดพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของวัชพืชลงอย่างชัดเจน

ดังนั้น หากพื้นที่ที่มีปัญหาวัชพืชมาก การเลือกใช้ระบบน้ำหยดอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการใช้ระบบสปริงเกอร์

ต้นทุนของระบบสปริงเกอร์ vs ระบบน้ำหยด เลือกแบบไหนดี

             ด้านต้นทุนคือปัจจัยสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ ระบบสปริงเกอร์จะมีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งสูงกว่า เพราะต้องเดินระบบท่อ หัวสปริงเกอร์ และปั๊มน้ำที่มีกำลังสูง ในขณะที่ระบบน้ำหยดมีต้นทุนติดตั้งต่ำกว่าอย่างเห็นได้ชัด และระบบน้ำหยดถือว่าช่วยประหยัดน้ำได้ดีกว่าระบบสปริงเกอร์มากถึง 40-60% จึงเหมาะกับพื้นที่ที่มีปริมาณน้ำจำกัดหรืออยู่ในพื้นที่แห้งแล้ง

สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าคุณจะเลือกระบบสปริงเกอร์หรือระบบน้ำหยด สิ่งสำคัญคือการวางแผนการใช้น้ำให้มีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากที่สุด หากคุณสนใจหรือยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกระบบไหนดี สามารถติดต่อยิ่งมี วาณิช เพื่อขอคำแนะนำฟรี !! พร้อมรับข้อเสนอสุดพิเศษ !!

 


บทความน่าอ่านที่เกี่ยวข้อง

ปัญหาน้ำประปาไหลอ่อน แก้ไขได้อย่างไร ??
07 มี.ค. 2568

ปัญหาน้ำประปาไหลอ่อน แก้ไขได้อย่างไร ??

ปัญหาน้ำประปาไหลอ่อน แก้ไขได้อย่างไร ??น้ำประปาที่ไหลอ่อน เป็นปัญหาที่หลายบ้านต้องเผชิญ ซึ่งส่งผลต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการอาบน้ำ ซักผ้า หรือทำอาหาร หากคุณกำลังเผชิญกับปัญหานี้ ยิ่งมีมีข้อแนะนำ วิธีแก้ปัญหาน้ำประปาไหลอ่อน  มาช่วยให้คุณสามารถจัดการกับปัญหานี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพตรวจสอบแหล่งน้ำและระบบจ่ายน้ำภายในบ้านก่อนอื่นควรตรวจสอบว่าปัญหาน้ำประปาไหลอ่อนมาจากแหล่งน้ำหลักหรื
เครื่องมือช่างพื้นฐานที่ทุกบ้านต้องมี
22 มี.ค. 2568

เครื่องมือช่างพื้นฐานที่ทุกบ้านต้องมี

เครื่องมือช่างสำหรับช่างมือใหม่หรือเจ้าของบ้าน การมีอุปกรณ์เครื่องมือช่างติดไว้ถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะสามารถช่วยแก้ไขปัญหาเล็กๆน้อยๆ ภายในบ้านได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น บทความนี้จะมาแนะนำเครื่องมือช่างพื้นฐานที่ควรมีติดบ้านแต่อีกหลายๆ คนยังเข้าไม่ถึงหรือยังไม่รู้ว่ามีเครื่องมือช่างอะไรบ้าง แต่ละอย่างมีไว้การใช้งานประเภทใด หลายครั้งเราก็สับสนว่างานชิ้นนี้ควรใช้เครื่องมือช่างอะไร ? เพราะว่ามีเครื่องมือช่า
คุณภาพน้ำที่ดี ควรมีลักษณะอย่างไร
16 มิ.ย. 2567

คุณภาพน้ำที่ดี ควรมีลักษณะอย่างไร

คุณภาพน้ำที่ดี คืออะไร1. ประกอบด้วยแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายแคลเซียม ช่วยบำรุงกระดูก ป้องกันโรคหัวใจและความดันโลหิตสูง บรรเทาอาการปวดประจำเดือนแมกนีเซียม ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก บรรเทาภาวะเครียด อาการซึมเศร้า ปวดไมเกรนฟลูออไรด์ ช่วยเสริมประสิทธิภาพให้แก่กระบวนการคืนกลับของแร่ธาตุบนผิวเคลือบฟัน ช่วยป้องกันฟันผุ2. มีโครงสร้างโมเลกุลขนาดเล็กแม้ว่าน้ำจะมีโมเลกุลขนาดเล็กซึ่งประกอบด้วยอะตอมข